Unicorn Overlord เป็นหนึ่งในเกมที่ประสบความสำเร็จ ด้วยรูปแบบเกมเพลย์ที่เอาใจสาย RPG และการวางแผน จนทำให้เกมมียอดขายเกิน 500,000 ชุดไปเป็นที่เรียบร้อย
ในอดีต Vanillaware สตูดิโอที่อยู่เบื้องหลัง Unicorn Overlord มีผลงานออกมามากมาย แต่ละผลงานมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เช่น Odin Sphere หรือ 13 Sentinels ซึ่งสตูดิโอได้เปิดเผยว่า Dragon’s Crown มีองค์ประกอบบางอย่างที่นำมาต่อยอดใน Unicorn Overlord
“หนึ่งสิ่งที่เราต้องนำกลับมาใช้ใน Unicorn Overlord คือองค์ประกอบของการออนไลน์” อะกิยาสุ ยามาโมโตะ (Akiyasu Yamamoto) โปรดิวเซอร์อธิบาย “องค์ประกอบนี้เคยประสบความสำเร็จมาจาก Dragon’s Crown”
Dragon’s Crown และ Unicorn Overlord มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน Dragon’s Crown เป็นเกมแอ็กชันผสม RPG เดินด้านข้าง ในขณะที่ Unicorn Overlord เป็นเกม RPG ผสมการวางแผน ที่ผู้เล่นสามารถจัดกองทัพของตนเองได้ และมีโหมด PvP ให้ได้ประลองกันด้วย
“พวกเราเห็นถึงศักยภาพของ Unicorn Overlord ที่พวกเราพยายามสร้างการเล่นรูปแบบใหม่ ๆ ออกมา เกมมีความลึกและเต็มไปด้วยแนว RPG” ยามาโมโตะบอกเสริม “เมื่อ ทาคาฟูมิ โนมะ (Takafumi Noma) ผู้กำกับ กับ วาตารุ นากานิชิ (Wataru Nakanishi) นักออกแบบ นำเกมนี้มาเสนอ มันทำให้พวกเราย้อนกลับไปนึกถึงเกมแนว RPG สมัยก่อน เกมวางแผนยุค 16 บิต ช่วงปี ค.ศ. 1990 ผมจึงตัดสินใจให้เกมนี้ไฟเขียวทันที”
Unicorn Overlord วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว บน PlayStation 4, PlayStation 5, Xbox Series X/S, และ Nintendo Switch
